ส อ ท ชงภาครัฐ รักษาฐานการผลิตยานยนต์ ยกระดับชิ้นส่วนยานยนต์ไทย พร้อมสู่อุตฯ ยานยนต์สมัยใหม่
VIDEO
วันที่ 12 ธันวาคม 2566 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดย Cluster of FTI Future Mobility-ONE หรือ CFM-ONE จัดทำข้อเสนอต่อแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย โดยมุ่งเน้นให้ภาครัฐรักษาและต่อยอดความเป็นฐานการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนของโลก สร้างอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนสมัยใหม่เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และยกระดับชิ้นส่วนยานยนต์ไทยเพื่อมุ่งการเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Parts Transformation) ณ ห้องประชุม 802 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท. มีนโยบายในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยจากอุตสาหกรรมดั้งเดิม (First Industries) ซึ่งประกอบไปด้วย 46 กลุ่มอุตสาหกรรม 11 คลัสเตอร์ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สู่อุตสาหกรรมใหม่ (Next-Gen Industries) ซึ่งมีอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรม S-Curve อีกทั้งเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ส.อ.ท. ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยนายเศรษฐาขอให้ ส.อ.ท. จัดทำ Action Plan ในแต่ละข้อเสนอ รวมถึงแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยเฉพาะประเด็นยานยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine) จึงเป็นที่มาของ ส.อ.ท. ในการจัดตั้ง Cluster of FTI Future Mobility-ONE หรือ CFM-ONE เพื่อจัดทำข้อเสนอและขับเคลื่อนการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ควบคู่กับภาครัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย ONE FTI นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การจัดตั้ง Cluster of FTI Future Mobility-ONE หรือ CFM-ONE มีจุดประสงค์หลักเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) กว่า 14 กลุ่มอุตสาหกรรม รวมทั้งสภาอุตสาหกรรมจังหวัด และหน่วยงานภายนอก เช่น สถาบันยานยนต์ สมาคมวิศวกรรมยานยนต์ไทย และเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ให้สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว นางสาวยุพิน บุญศิริจันทร์ ประธาน Cluster of FTI Future Mobility-ONE และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ด้วยบริบทของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่ประสบกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีการผลิตในบริบท Technology Disruption รวมถึงมีการออกมาตรการที่ชัดเจนว่าตั้งแต่ปี 2573 (ค.ศ. 2030) จะมีการขายยานยนต์ประเภทสันดาปภายในให้ลดลง โดยเฉพาะในประเทศยุโรป และสหรัฐอเมริกา ประเทศไทยจึงต้องเตรียมพร้อมและปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น โดยยกระดับชิ้นส่วนยานยนต์ไทยเพื่อมุ่งการเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญกับเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการสร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 11% ของ GDP ภาคอุตสาหกรรม การจ้างงานกว่า 750,000 คน และเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นฐานการผลิตที่สำคัญของโลกด้วยการมีปริมาณการผลิตลำดับที่ 10 ของโลก และมีการส่งออกว่า 170 ประเทศทั่วโลก และจะยังคงต้องพึ่งพาการผลิตยานยนต์ ทั้งประเภทสันดาปภายใน (ICE :Internal Combustion Engine) เพื่อรักษาการจ้างงาน และเตรียมความพร้อมสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ที่ภาครัฐเริ่มมีมาตรการส่งเสริม จนทำให้นักลงทุนในต่างประเทศเริ่มมาลงทุนในอุตสาหกรรมมากขึ้น
Shopee โปร 12.12 Birthday Sale ถูกสุดแห่งปี* โค้ดส่วนลด 2,000.- Ho Ho Ho เทศกาลแห่งความสุขมาถึงแล้ว ชวนช้อปฉลองส่งท้ายปีกับ Shopee 12.12 Birthday Sale ลดใหญ่วันเกิด ที่มาพร้อมความถูกสุดแห่งปี* แจกโค้ดเงินคืน 100% โค้ดส่วนลด 2,000.-“
⭐บัตรกดเงินสด KKP⭐ วงเงินพร้อมใช้ ไม่ต้องง้อใคร แค่มีบัตรกดเงินสด KKP CASH CARD สะดวกทุกที่ทุกเวลา ✨สมัครวันนี้แถมฟรี กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว* วันนี้ – 31 ธ.ค. 66 เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด*สนใจคลิ๊กที่ภาพ
🎉🎉 ใหม่ล่าสุด!! ประกันภัยโรคมะเร็ง “Cancer Pro by BDMS” จากวิริยะประกันภัย แผนประกันมะเร็งที่จะช่วยให้คุณตรวจพบมะเร็งได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้มะเร็งของคุณ สามารถรักษาได้ “ มะเร็ง รู้ก่อน รักษาก่อน หายได้” ด้วย Cancer Pro by BDMS 🎁 #พิเศษ มอบโปรแกรมตรวจคัดกรองมะเร็งและแพคเกจตรวจสุขภาพทุกปีเมื่อต่ออายุกรมธรรม์ 💙 #อุ่นใจ ตรวจพบมะเร็งรับค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 9 ล้านบาท เพราะมะเร็งรักษาได้.. แค่รู้ไว สนใจคลิ๊กที่ภาพ